คัมภีร์จีบ pretty (ลับสุดยอด)
pretty หมายถึง ผู้หญิงที่ไม่ใช่สวยธรรมดาๆ แต่ถึงขั้นสวยมาก ว่ากันว่าการจีบ pretty นั้นยากเย็นแสนเข็ญ แล้วทำไมบางคนมันถึงคาบไปแดกได้ เรื่องนี้ง่ายนิดเดียว คือมันหล่อ… แล้วถ้าเราไม่หล่อล่ะ นั่นสิ จะทำยังไง ปกติผู้หญิงจะดูคนที่นิสัย แต่ถ้าไอ้หมอนั่นมันดันหล่อแล้วนิสัยดีแล้วเก่งทุกเรื่องล่ะล่ะ เราจะสู้มันยังไง คำตอบคือ…เลือนรางและน้อยนิด จงปล่อยไปซะ แม้เราจะบอกว่าเราพร้อมให้ใจเธอ แต่ไอ้หมอนั่นมันก็มีเหมือนกัน สรุป…มันมีทุกอย่างที่เรามี ยอมเค้าไปเถอะครับ แล้วมาดูกันว่า เราจะจีบ pretty ยังไง ถ้าเรามี pretty ในดวงใจแล้ว กฎของการจีบ pretty คือ เค้าเป็นฝ่ายเลือกเรา เราไม่ได้เลือกเค้า เพราะเค้ามีตัวเลือกมาก จึงมีสิทธิ์ทีจะเลือก และเค้า…ไม่ผิด ทฤษฎีบทที่ 1 ห้ามเป็นเพื่อน เป็นได้แค่คนรู้จัก หากเป็นเพื่อนเราจะถูกคนอื่นๆ ตราหน้าว่าเป็นเพื่อนไปตลอด พอคนอื่นตราหน้าว่าเป็นเพื่อน เค้าก็จะมองว่าเราเป็นเพื่อน และแน่นอนเราก็จะหมดสิทธิ์ ทันที เพราะนี่คือ pretty ทฤษฎีบทที่ 2 ถ้าเจอต้องทัก ถ้าจากต้องลา อย่าหายหน้าหายตา ไปโผล่หน้าให้เค้าเห็นบ่อยๆ อย่าคิดว่าเราอยู่เฉยๆ แล้วเค้าจะมาชอบเรา เค้าเป็น pretty นะจำไว้ให้ดี เค้าจะระมัดระวังตัวอยู่แล้ว ต้องโผล่หน้าไปให้เค้าเห็นบ่อยๆ หากเดินสวนกัน ต้องชิงทักก่อน เพราะหากรู้จักแล้ว ทักไปเลยไม่ต้องกลัว หากทักไปแล้วก็จะได้ทักทุกครั้ง หากแค่สวนกันเฉยๆ อย่าหยุดคุย เพราะเค้าเป็น pretty คงไม่ว่างคุยกับเราหรอกและอึดอัดด้วย แต่หากมีโอกาสเหมาะ คุยเลย เช่น รอซื้อข้าว ทฤษฎีบทที่ 3 ทำเหมือนจีบ แต่จีบหรือไม่…ไม่รู้ แบบว่าเค้าถามอะไรเรามา ตอบแบบเสี่ยวออกไป ใช้ความเสี่ยวที่เรามีจีบเค้าซะ แต่ห้ามหน้าแดง ห้ามเขิน ทำเหมือนพูดกับเพื่อนธรรมดาๆ ให้มีแต่ถ้อยคำ แต่อย่าแสดงออกทางสายตา เค้าจะรู้ เพราะเค้าเป็น pretty ทำให้เค้างง ไม่รู้ว่าเราคิดยังไงกับเขา หากไม่ได้ชอบเขา เขาก็คงกลับไปคิด แต่หากชอบเขา เขาคงไม่เอาไปคิด ตอนนี้เค้าจะสับสนเค้าจะคิดเรื่องเรามากขึ้น เพราะเค้าเป็น pretty ทฤษฎีบทที่ 4 รู้จักสร้างโอกาส (สำคัญที่สุด) แน่นอนที่สุดว่า ทฤษฎีบทที่ 1-3 นั้นทุกคนทำได้อยู่แล้ว แต่ทฤษฎีบทที่ 4 นั้น สำคัญที่สุด ใครชิงทำทฤษฎีบทนี้ได้ก่อน โอกาสจะคว้า pretty มาเคียงข้างก็จะมากกว่าคนอื่นเขา ร้อยละ 70 ของผู้สำรวจ ที่จีบติดมาถึงขั้นนี้ทั้งนั้น บางทีโอกาสก็เกิดขึ้นเอง แต่บ่อยครั้งเราต้องเป็นคนสร้างขึ้น เช่นหากจะโทรไปคุยเฉยๆ ต้องมีเรื่องงานมาก่อน เป็นการเปิดประเด็น แต่หลังจากนั้นเราก็สามารถโทรไปคุย ไปปรึกษาเค้าได้ แต่อย่าโทรบ่อย อาทิตย์ละครั้ง สองอาทิตย์ครั้ง แต่ละครั้งสั้นยาวไม่เท่ากัน แต่เน้นที่สั้นๆ ไว้ก่อน หาข้อแก้ตัวที่ฟังไม่ขึ้นในการมาคุยกับเค้า เช่น เรากำลังจะไปเล่นเน็ต แต่เดินสวนเค้า เค้าถามว่าไปไหน แล้วเราดันตอบว่าไปเล่นเน็ต แล้วเราจะกลับมาคุยกับเค้ายังไงล่ะทีนี้ ง่ายนิดเดียว…เราก็ไปเล่นเน็ตซะซัก 5 นาทีแล้วค่อยมาคุยกับเค้า ถ้าเค้าถามเราก็มั่วไปเลย เน็ตล่มบ้าง คนเต็มบ้าง ให้เลือกตอบในแบบที่เค้ารู้ว่าเราพูดโกหก เค้าก็จะเริ่มเอะใจแล้ว จากนั้นห้ามเงียบ ต้องชวนคุย แต่ดูด้วยนะว่าเค้าอยากคุยรึเปล่า แล้วก็บ่นว่าหิวข้าว ไปกินข้าวกันมั๊ย…ถ้าเค้าไม่ไป เราก็ถาม “ไม่ไปแน่นะ งั้นเราไปก่อน แต่เปลี่ยนใจได้นะ” ให้เค้าเป็นฝ่ายตัดสินใจ อย่าคะยั้นคะยอ ไม่งั้นเค้าจะอึดอัด เพราะเค้าคือ pretty หาทางทำกิจกรรมกับเค้า หากเค้าออกค่าย เราต้องไป ทำให้เหมือนเป็นเรื่องบังเอิญ ทำทุกอย่างให้เป็นพรหมลิขิต ตรงข้ามกับข้างบน สำหรับคนใจไม่กล้าพอ "สรุป"ไม่มีอะไรแน่นอนสำหรับการจีบ pretty ยึดข้อนี้ไว้เพราะคู่แข่งแต่ละคนล้วนมีกลยุทธ์หลากหลาย ทฤษฎีนี้ทำได้เพียงบทที่ 4 เท่านั้น ส่วนที่เหลือคงต้องต่อยอดกันเอง และจำไว้ว่าแต่ละคนล้วนมีจุดดีในตัวเอง หาจุดดีนั้นให้เจอ และดึงมันให้เด่นออกมาให้ได้ หมายเหตุ: ทางสถาบันไม่รับรองผล มันเป็นเพียงแนวทางเท่านั้น หากจีบติดช่วยบอกด้วย
ที่มา : จาก Narak.comคับ
วันศุกร์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2552
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)